1. เมื่อเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุน
- สามารถหักลดหย่อนได้เมื่อคำนวณเงินได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน ปีละ 10,000 บาท - สำหรับส่วนที่เกิน 10,000 บาท (แต่ไม่เกิน 15% ของค่าจ้าง และไม่เกิน 490,000บาท) ได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำไปรวมคำนวณเงินได้ เพื่อเสียภาษี
2. เมื่อบริษัทจัดการนำเงินไปลงทุน
- รายได้จากเงินลงทุนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ได้รับการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย
3. สิทธิประโยชน์เมื่อสิ้นสมาชิกภาพ
- กรณีนำเงินออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยมีอายุงานมากกว่า หรือเท่ากับ 5 ปี ต้องเสียภาษีเงินได้ โดยนำส่วน ผลประโยชน์จากเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์จากเงินสมทบ มาคำนวณเพื่อเสียภาษีสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 7,000 บาท คูณ จำนวนปีที่ทำงานเหลือเท่าใดให้หักค่าใช้จ่ายได้อีกครึ่งหนึ่ง - อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และต้องเป็นสมาชิกกองทุน มาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี จะได้รับการยกเว้นภาษี คือ เงินที่ได้รับจากกองทุนทั้งหมด ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ - ออกจากงานแต่ได้คงเงินไว้ทั้งจำนวนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและต่อมาขอรับเงิน โดยลูกจ้างต้อง มีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปี บริบูรณ์ และต้องเป็นสมาชิกกองทุน มาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี จะได้รับยกเว้นภาษีทั้งจำนวน จากเงินได้ที่ได้รับจากกองทุนทั้งหมด
ข้าพเจ้าได้อ่านและยอมรับเงื่อนไขและข้อกำหนดต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่ข้างต้นแล้ว
ตามที่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กฟผ. ยกเลิกสัญญากับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนนโยบายตราสารทุน และกระจายพอร์ตการลงทุนให้กับพอร์ตของ บลจ, เอ็มเอฟซี (2) บลจ.ไทยพาณิชย์ และ บลจ.ไทยพาณิชย์ (2) โดยจะมีผลในวันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 นั้น
จากข้อจำกัดของระบบทะเบียนสมาชิก ทำให้ในการดำเนินการกระจายพอร์ตการลงทุนนโยบายตราสาร ทุนจะกระทบต่อการสับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนของสมาชิก ดังนี้